ดิฉันเป็นคนกรุงเทพแต่กำเนิด แต่ปัจจุบันย้ายมาอยู่ที่นครนายก ได้ 3 – 4 ปีแล้ว เพราะว่ามาทำงานที่นี่ โดยอาศัยอยู่กับน้องชายแท้ ๆ ของดิฉันชื่อหนุ่ย ซึ่งมีอายุน้อยกว่าดิฉัน 5 ปี จึงทำให้ดิฉันเห็นว่าหนุ่ยเป็นเด็กตลอดเวลาเรื่องของดิฉันเกิด ขึ้นเมื่อปีกว่า ๆ มานี่เอง โดยเป็นเรื่องที่เกิดระหว่างดิฉันกับหนุ่ยนี่เองเรื่องมีอยู่ว่า ดิฉันหลังจากเรียนจบปริญญาโท จึงได้ทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในตำแหน่งรองหัวหน้าฝ่ายวิจัยผลิตภัณฑ์ เมื่อทำได้เกือบปี ดิฉันก็ได้รับการแต่งตั้งให้มาเป็นหัวหน้าฝ่ายวิจัยที่โรงงานจังหวัดนครนายก จึงได้ย้ายมาอยู่ที่นี่ โดยมาอาศัยอยู่กับหนุ่ย ซึ่งกำลังเรียนอยู่ปี 3 ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดนี้ เมื่อย้ายมาอยู่ที่นี่ กิจกรรมหลักในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ก็คือ เที่ยว โดยมีหนุ่ยและเพื่อน ๆ ที่เป็นคนท้องถิ่นเป็นคนแนะนำและบางครั้งก็ไปกันเป็นกลุ่ม ดิฉันมุ่งแต่เรียน ถึงแม้มีหนุ่ม ๆ มาจีบบ้างแต่ก็ไม่เคยสนใจ จนกระทั่งจบปริญญาโท และมาทำงาน แต่ที่โรงงานที่ดิฉันทำอยู่ก็ไม่มีใครกล้าจีบดิฉันอาจเป็นเพราะ นิสัยเคร่งขรึมของดิฉันเมื่อเวลาทำงาน หรืออาจเป็นเพราะหนุ่ม ๆ ที่นี่เห็นว่าดิฉันจบปริญญาโทก็เป็นไปได้ จึงไม่มีใครกล้าจีบ ถึงแม้หน้าตาดิฉันไม่จัดว่าสวยนักแต่ก็คิดว่าหากจะประกาศหาคนควงก็คงไม่ยาก นัก ประกอบกับรูปร่างที่สูงเพรียว ด้วยส่วนสูงที่ 169 น้ำหนัก 51 สัดส่วน 34-24-35 กลับมาเรื่องของดิฉันกับหนุ่ยดีกว่า เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อประมาณเดือนกรกฎาคม ปีที่แล้ว ช่วงนั้นเป็นช่วงที่หนุ่ยปิดภาคเรียนระหว่างปี หนุ่ยจึงได้ชวนดิฉันเที่ยว โดยไม่รู้มาก่อนว่านั่นเป็นของดิฉัน โดยหนุ่ยชวนดิฉันว่าจะไปเที่ยวเขาใหญ่ โดยจะไปพักที่บ้านพักของอุทยาน โดยไปกัน 2 คนส่วนเพื่อนๆของเขาจะ ตามมาทีหลัง เพราะเพื่อน ๆ กลับไปบ้านกันหมด ส่วนพวกที่อยู่ที่นครนายกก็ไม่ว่าง ตอนนั้นดิฉันเห็นว่าก็ดีเหมือนกัน เพราะกำลังเครียดกับงาน
ประกอบกับเห็นว่าหนุ่ยไปคนเดียว จึงเป็นห่วง จึงได้ขอลาพักร้อน 1 อาทิตย์ ก่อนไปดิฉันได้ถามหนุ่ยเรื่องที่พักอีกครั้ง หนุ่ยบอกว่าได้ที่พักแล้วเป็นบ้านพักอุทยาน มี 2 ห้องนอน ดิฉันจึงไม่ได้คิดอะไร แต่เมื่อไปถึงปรากฏว่า ที่พักที่มี 2 ห้องเต็ม เหลือแต่แบบห้องนอนเดียว หนุ่ยจึงบอกว่า ถ้าอย่างนั้นให้ดิฉันนอนที่ห้องพัก แล้วหนุ่ยจะเช่าเต็นท์ นอน ดิฉันเห็นว่า มันไม่จำเป็นและก็เห็นว่าหนุ่ยเป็นน้องไม่น่าจะคิดอะไรกับดิฉัน จึงบอกหนุ่ยไปว่า ไม่เป็นไรนอนห้องเดียวกับดิฉันก็ได้ แล้วเราก็เอาของเข้าบ้านพักไปวันนั้นหลังจากที่เดินทางมาเหนื่อย เมื่อเอาจัดของเสร็จแล้ว ดิฉันก็อยากจะอาบน้ำ เมื่ออาบน้ำเสร็จหนุ่ยก็หยิบเอา สไปร์ท กระป๋องยื่นให้ แล้วก็ไปอาบน้ำบ้าง ดิฉันรับน้ำจากหนุ่ยมา ก็เปิดดื่มแล้วก็นั่งอยู่หน้าบ้านพัก เพื่อดูวิว เมื่อนั่งไปได้สักพัก ก็เริ่มรู้สึกเพลีย ๆ สลึมสะเลอ จึงคิดว่าเป็นเพราะเหนื่อยจากกาเดินทาง ประกอบกับอากาศกำลังเย็นสบาย จึงได้กับเข้าห้องพัก เพื่อจะนอนพัก เมื่อกำลังจะก้าวขึ้นที่นอน หนุ่ยก็กลับมาจากอาบน้ำ ดิฉันจึงบอกหนุ่ยไปว่าดิฉันรู้สึกเพลีย ขอนอนสักพัก ถ้าจะออกไปไหนก็ให้ปิดประตูให้ด้วย หนุ่ยจึงรีบปิดประตู แล้วตรงเข้ามากอดดิฉัน ดิฉันตกใจมาก ไม่นึกว่าหนุ่ยจะทำอะไรกับดิฉันอย่างนี้ ดิฉันพยายามดิ้น พร้อมทั้งถามหนุ่ยว่า จะทำอะไรดิฉัน หนุ่ยไม่ตอบ แต่กลับกอดรัดดิฉันแน่นขึ้น พร้อมทั้งจูบไซ้ไปที่บริเวณ ซอกคอ และใบหน้าดิฉัน ดิฉันจึงรู้แน่แล้วว่าอะไรกำลังจะเกิดกับดิฉัน ดิฉันพยายามดิ้นและจะตะโกน แต่ก็ไม่มีแรง หนุ่ยจึงผลักดิฉันลงบนเตียง แล้วก็ขึ้นคร่อมบนตัวดิฉัน พยายามกอดจูบ และไล้ไปตามตัวดิฉัน ดิฉันไม่มีเรียวแรงที่จะต่อสู้ จึงร้องไห้ออกมา แล้วก็ปล่อยให้หนุ่ยถอดเสื้อผ้าดิฉันจนหมด เมื่อหนุ่ยถอดเสื้อผ้าดิฉันหมดแล้ว หนุ่ยก็ขึ้นคร่อมบนตัวดิฉันอีกครั้ง พร้อมทั้งก้มลงดูดไปที่หน้าอกดิฉัน โดยที่มือข้างหนึ่งคลึงไปที่หน้าอกอีกข้าง ส่วนอีกมือก็ลูบไล้ไปตามร่างกายดิฉัน และก็มาสุดที่ร่องเสียวดิฉัน แล้วหนุ่ยก็เริ่มเคล้นคลึงไปทั่วร่อง ตอนนั้นดิฉันรู้สึกเสียใจ และโกรธแค้นหนุ่ยมากคนที่ไม่เคยโดนข่มขืนไม่เข้าใจหรอกว่า ใจมันไม่อยาก แต่ร่างกายซิ มันไม่หยุด แต่ไม่นานดิฉันก็เริ่มรู้สึกหวิว ๆ มากขึ้น ทำให้ผู้หญิงเรียร้อย อย่างดิฉัน เริ่มลุกเป็นไฟ ขาที่หนีบ มือที่ผลักออกเริ่มอ่อนแรง ประกอบกับอาการเคลิ้มๆ ที่เกิดขึ้น ทำเอาดิฉัน แทบอยากกัดลิ้นตัวเองตายไปเดี๋ยวนั้น ฉันคลานหนีลงมาจากเตียง พร้อมโผไปที่ประตู เป็นจังหวะเดียวกับที่เพื่อนหนุ่ย 3 คนตามมาสมทบ ทั้ง 3 ตาเหลือกเมื่อเห็นดิฉันซึ่งเป็นพี่สาวเปลือยเปล่า โผออกมาจากห้อง และก็พาฉันไปนอนที่อื่น หลังจากนั้นฉันก็ไม่กล้าพูดหรือสบตากับหนุ่ยอีกเลย
0 comments:
Post a Comment