ฉันได้พบกับแฟนหนุ่มของฉันและเป็นแฟนกันมาสามปีกว่าแล้ว เขาเป็นผู้ชายที่อ่อนโยนมาก มีครอบครัวที่ร่ำรวยหลังจากจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เขาก็ไปช่วยงานธุรกิจของพ่อเขา และได้ติดตามพ่อของเขาไปเข้าร่วมงานธุรกิจที่สำคัญต่างๆ เขาเป็นคนที่ฉลาดและมีความสามารถ
ในคืนหนึ่งหลังจากที่ฉันลังเลมาเป็นเวลานาน และในที่สุดฉันก็เอ่ยปากถามเขาอย่างกล้าหาญว่า เราก็อยู่ด้วยกันมาสามปีกว่าแล้ว เราแต่งงานกันดีกว่าไหม หลังจากที่เขาได้ฟังฉันพูดเสร็จเขาก็เงียบไปสักครู่หนึ่งแล้วตอบฉันว่า เรื่องการขอแต่งงานเป็นเรื่องที่ผู้ชายต้องทำ ให้ผู้หญิงเป็นคนขอได้ยังไง ในตอนนั้นฉันรู้สึกมีความสุขมาก แต่รอจนถึงสุดท้ายก็ไม่เคยเห็นเขาทำเลย
ในคืนหนึ่ง เมื่อฉันเลิกงานกลับมาถึงบ้าน ฉันพบว่ามีหนุ่มหล่อคนหนึ่งกำลังนอนอยู่บนโซฟาและดูทีวีอยู่ในบ้านของฉัน หลังจากที่เขาเห็นฉัน เขาได้ทักฉันด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของเขา หนุ่มหล่อคนนี้ชื่อว่าแซมเป็นเพื่อนสนิทของแฟนฉัน เพราะว่าแฟนของฉันไม่มีเวลา แฟนของฉันเลยอยากจะให้ฉันช่วยดูแลเพื่อนของเขาแทนเขาก่อน เมื่อฉันโทรไปถามเรื่องนี้กับแฟนและรู้ว่ามันเป็นความจริง ฉันเลยหายกังวลและฉันก็ถามแฟนของฉันว่า ทำไมไม่บอกฉันล่วงหน้า แฟนฉันตอบว่าเขายุ่งเกินไปจนลืมเรื่องนี้ไป
เพราะว่าแซมเป็นเพื่อนสนิทของแฟนฉัน ฉันเลยต้องปฏิบัติกับเขาให้ดีๆ แซมเป็นคนมีอารมณ์ขันมาก และหน้าตาดีมาก มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับสาว ๆ ที่จะตกหลุมรักเขาหลายวันต่อมาเราก็กลายเป็นเพื่อนกันและพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง
คืนหนึ่งฉันทะเลาะกับแฟนของฉัน มันเป็นการทะเลาะที่เลวร้ายที่สุดตั้งแต่เราสองคนอยู่ด้วยกันมา ตอนนั้นแซมยังคงอยู่ในบ้านของฉัน เขาได้พูดคุยกับฉันเรื่อยๆเพื่อให้ฉันรู้สึกสบายใจและยังช่วยต่อว่าแฟนของฉันอีกด้วย คำพูดที่ตลกของเขาทำให้ฉันอดหัวเราะไม่ได้ และจู่ๆเขาก็เข้ามาใกล้ตัวฉันและมาจูบฉัน พร้อมกับได้บอกรักกับฉัน เขาบอกว่าหลังจากที่ได้มาอยู่ในบ้านของฉัน เขาได้ตกหลุมรักฉันมาก เขาไม่อยากจะเห็นฉันร้องไห้และไม่อยากจะให้ฉันรู้สึกน้อยใจ ในขณะนั้น คำพูดของเขาทำให้ฉันรู้สึกซึ้งใจมากๆ
เขาเป็นคนที่หล่อมากและมีความอ่อนโยนมีเสน่ห์กว่าแฟนหนุ่มของฉันเยอะ และหลังจากที่เราได้กินเบียร์ด้วยกัน เราสองคนก็มีความสัมพันธ์กันในคืนนั้นหลังจากนั้นหนึ่งสัปดาห์แซมได้กลับไปบ้านของเขาแต่จู่ๆแฟนของฉันก็นัดฉันไปทานอาหารเย็นเขาบอกกับฉันว่าเขารู้เรื่องราวของฉันและแซมหมดแล้ว แซมได้ไปหาเขาและบอกความจริงกับเขา เพื่อขอให้อภัยให้กับเขา ในขณะนั้นฉันรู้สึกตกใจมากและฉันรู้สึกว่าฉันคงไม่กล้าจะสู้หน้ากับแฟนฉันอีก เมื่อเขาบอกให้ฉันเลิกกับเขา ฉันก็เลยเห็นด้วยกับเขา
หลายปีต่อมาเมื่อฉันกำลังจะลืมเรื่องนั้นลง มีครั้งหนึ่ง ฉันบังเอิญได้พบกันกับเพื่อนอีกคนหนึ่งของแฟนเก่าฉันในระหว่างเดินทางไปทำธุรกิจเพื่อนคนนั้นได้บอกความจริงกับฉันว่า แฟนเก่าฉันรำคาญฉันที่ไปบังคับให้เขาขอแต่งงาน และพอดีครอบครัวของเขาก็ชอบฉันมาก เขากลัวว่าเดี๋ยวต้องแต่งงานกับฉันจริงๆ เขาจึงคิดวิธีนี้ขึ้นมา โดยให้เพื่อนที่ชื่อแซมของเขามาเกลี้ยกล่อมฉัน เขาจะได้เลิกกับฉันแบบสบายใจและไม่ต้องมีเรื่องอะไร
หลังจากที่ฉันรู้ความจริงนั้น ฉันถึงกับใจสลายแต่คิดๆดูแล้ว ไม่ว่าฉันจะไปเกลียดชังเขาหรือไม่ อย่างน้อยตอนนี้ฉันก็ไม่รักเขาแล้วเพียงแต่คิดไม่ถึงว่า ผู้ชายที่ฉันเคยคิดว่าดีมากถึงขนาดนั้น จะใช้วิธีการแบบนี้กับฉันเพื่อให้ฉันยอมเลิกกับเขา….
คิดไม่ถึงจริงๆเลยว่า เรื่องราวจะปิดท้ายด้วยความจริงที่โหดร้ายแบบนี้ แล้วก็คิดไม่ถึงจริงๆเลยว่าจะใช้วิธีการแบบนี้มาบอกเลิกกับแฟนของตนเอง!!!
0 comments:
Post a Comment