แบ่งปันเรื่องราวเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ให้กับเพื่อนของคุณ ……มีผู้ป่วยหนัก 2 คนอยู่ในห้องเดียวกัน แต่ละคนมีบุคลิกไม่เหมือนกัน ความคิดความอ่านก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง………..
ผู้ป่วยชายอาการหนัก 2 คนพักอยู่ในห้องเดียวกัน เกือบทั้งวันจะนอนอยู่แต่บนเตียง ชายคนหนึ่งได้รับอนุญาตให้นั่งขึ้นเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงทุกวัน เพื่อล้างปอดเปลี่ยนถ่ายของเหลว และเตียงก็ตั้งอยู่ใกล้หน้าต่าง ดังนั้น ทุกๆวัน เขาจะมีเวลา 1 ชั่วโมงมองออกไปนอกหน้าต่าง ในขณะที่ผู้ป่วยอีกคนจำเป็นต้องนอนอยู่บนเตียงตลอดทั้งวันและไม่สามารถลุกขึ้นได้
ทุกวันตอนบ่าย ชายที่อยู่ริมหน้าต่างจะนั่งอยู่บนเตียง บรรยายภาพนอกหน้าต่างให้ชายอีกคนฟัง ในเวลาหนึ่งชั่วโมง ชายที่อยู่ริมหน้าต่างจะอธิบายถึงภาพนอกหน้าต่างที่สวยงาม ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่พวกเขามีกำลังใจและกระตือรือร้นมากที่สุด
ชายที่อยู่ริมหน้าต่างอธิบายแต่ด้านความสวยงาม ทำให้ชายอีกคนที่อยู่มุมห้องมีความคิดที่เห็นแก่ตัวว่า “ทำไมเขาถึงสามารถเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์นอกหน้าต่างได้ แต่ฉันกลับมองไม่เห็นอะไรเลยล่ะ? แบบนี้มันช่างไม่ยุติธรรม” ใจของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ จนนอนไม่หลับ ความคิดที่ว่า “ความจริงฉันควรจะเป็นคนที่นอนอยู่ริมหน้าต่างสิ” ได้ครอบงำชีวิตของเขาไว้
กลางดึกคืนหนึ่ง ชายที่อยู่ริมหน้าต่างเริ่มไอไม่หยุด ของเหลวในปอดทำให้เขาหายใจลำบาก ในความมืด เขามองชายที่อยู่ริมหน้าต่างดิ้นทุรนทุราย แต่ก็ไม่ได้ช่วยกดปุ่มขอความช่วยเหลือ หรือร้องเรียกพยาบาลเลย ไม่ถึง 5 นาที เสียงไอก็หยุดลง และเสียงหายใจก็ไม่มีแล้วเช่นกัน
ชายที่อยู่ริมหน้าต่างเสียชีวิตลงแล้ว ชายมุมห้องรีบขอย้ายไปเตียงริมหน้าต่างทันที พยาบาลก็ทำตามที่เขาขอ เขาตื่นเต้นมากที่ในที่สุดเขาก็มีโอกาสเห็นภาพนอกหน้าต่างด้วยตาของเขาเอง แต่เขากลับประหลาดใจที่พบว่า นอกหน้าต่างมีเพียงผนังสีขาวด้านหนึ่งเท่านั้น……
ความอิจฉาทำให้เขาสูญเสียเพื่อนคุยเพียงคนเดียวของเขาไป ชายที่ตายอาจจะต้องการสร้างแรงบันดาลใจให้ชายที่อยู่มุมห้อง ทำให้เขาไม่สูญเสียความสุขและความหวังไปเพราะต้องนอนป่วยอยู่บนเตียง แต่ในมุมมองของชายที่อยู่มุมห้องกลับไม่คิดเช่นนั้น ท้ายที่สุดเขาก็สูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง และต้องเผชิญกับชีวิตที่โดดเดี่ยวต่อไปอีกด้วย ความสุขเป็นสิ่งที่พวกเราต้องไขว่คว้าไว้ด้วยตัวเอง เมื่อกำจัดความทุกข์ออกไปแล้วก็จะพบกับเรื่องราวมากมายที่ทำให้เรามีความสุข
รีบแชร์ออกไป ทำให้ทุกคนที่ได้อ่านเรื่องนี้ได้มีแรงบันดาลใจและกำลังใจกันเถอะ
0 comments:
Post a Comment